
ในยุคที่ผู้คนเดินผ่านหน้าร้านด้วยความเร่งรีบ การสื่อสารที่สามารถหยุดสายตาและดึงดูดความสนใจได้ในไม่กี่วินาที คือกุญแจสำคัญของการตลาดยุคใหม่ และหนึ่งในเครื่องมือที่เปลี่ยนวิธีการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิงก็คือ Digital Signage(ดิจิทัล ไซเนจ) หรือจอแสดงผลดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสื่อหลักตามร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ ร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจบริการทุกขนาด แต่ก่อนที่เทคโนโลยีนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันนั้นมีจุดเริ่มต้นจากไอเดียที่สร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งที่กินระยะเวลายาวนานหลายทศวรรษโดยวันนี้ทาง H2Technology (เอชทูเทคโนโลยี) จะพาคุณผู้อ่านย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดของ Digital Signage และการเดินทางที่เปลี่ยนโลกของการโฆษณาสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปอย่างสิ้นเชิง
จุดเริ่มต้นของ Digital Signage จากป้ายไฟนีออนสู่จอแสดงผล LED
ก่อนจะมาสู่ยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ เราจะเห็นว่าการสื่อสารเพื่อโฆษณาสินค้าหรือบริการมักใช้แผ่นโปสเตอร์ ป้ายไฟนีออน และป้ายไวนิลซึ่งเน้นความเรียบง่ายและคงที่ แต่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ถึงต้นทศวรรษ 1990 แนวคิดในการใช้จอภาพเพื่อการแสดงผล (Display) ที่สามารถเปลี่ยนเนื้อหาได้แบบเรียลไทม์เริ่มเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในแวดวงอุตสาหกรรมค้าปลีกและสนามบินที่ต้องการแสดงข้อมูลอัปเดตตลอดเวลา
ในห้วงเวลานั้นต่างก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีจอ CRT และ LCD สำหรับใช้แสดงข้อมูลแบบเคลื่อนไหวได้ ซึ่งแม้ในช่วงแรกต้นทุนจะสูงและเทคโนโลยียังจำกัด แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของยุค Digital Signage ในเวลาต่อมา โดยเราคุ้นเคยจอ CRT (Cathode Ray Tube) ในฐานะเทคโนโลยีจอภาพรุ่นแรกๆ ที่ใช้ในทีวีและคอมพิวเตอร์ยุคก่อน ซึ่งปัจจุบันแทบไม่ได้ใช้แล้วเนื่องจากมีขนาดใหญ่ หนัก และกินพลังงานมาก
ก่อนจะพัฒนาไปสู่จอแสดงผล LED ที่เห็นกันแพร่หลายในปัจจุบัน โดยจอแสดงผลแบบ LED (Light Emitting Diode) นั้นพัฒนาจาก LCD โดยใช้หลอดไฟ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสง ทำให้สว่างมากขึ้น สีสันสดใส และแม้แต่การใช้งานกลางแจ้งก็ให้ภาพสีคมชัด ซึ่งในยุคดิจิทัลนี้เรามักรู้จักในรูปแบบการนำไปใช้งานด้านการตลาดโฆษณาสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่ทันสมัยตามคอนเทนต์ที่แบรนด์ร้านค้าต้องการจะสื่อสารกับผู้บริโภคซึ่งนอกจากเพิ่มโอกาสในการสร้าง Engagement แล้วทางอ้อมยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจของธุกิจบริการให้เข้ากับยุคดิจิทัล หากคุณผู้อ่านสนใจผลิตภัณฑ์บริการสไตล์ Digital Signage(ดิจิทัลไซเนจ) นี้สามารถติดต่อสอบถามกับทาง H2Technology (เอชทูเทคโนโลยี) ตามช่องทางติดต่ออีเมล์,ไลน์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏหน้าเว็บได้เลย


การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค LED และระบบเน็ตเวิร์ก
หลังจากเข้าสู่ยุคปี 2000 เทคโนโลยีจอแสดงผลเริ่มมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะ “จอ LED” ที่มีความสว่างสูง ทนทาน และสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจนแม้ในที่กลางแจ้ง พร้อมกับการมาถึงของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้การควบคุมเนื้อหาบนจอสามารถทำได้จากศูนย์กลางแบบเรียลไทม์ ผู้ประกอบการเริ่มเปลี่ยนจากการใช้ป้ายแบบติดตั้งถาวรมาเป็นจอ Digital Signage ที่สามารถเปลี่ยนโปรโมชั่น ภาพสินค้า หรือข้อมูลข่าวสารได้ภายในไม่กี่วินาที
ประเทศผู้นำเทคโนโลยี Digital Signage
แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ในด้านของการพัฒนาและใช้งานจริงนั้นประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็ถือว่าเป็นผู้นำด้านนี้เช่นกันโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เป็นประเทศแรกๆ ที่นำ Digital Signage เข้าสู่ระบบขนส่งมวลชน และเกาหลีใต้ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้กับร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันฝั่งประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีก็เริ่มให้ความสนใจกับการนำ Digital Signage เข้ามาช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงเมนูแบบอินเตอร์แอคทีฟในร้านอาหาร หรือจอแนะนำผลิตภัณฑ์ในห้างสรรพสินค้าจนกระทั่งเกิดกระแสความนิยมแพร่หลายในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
บทสรุป: การเดินทางของ Digital Signage ยังไม่จบ
Digital Signage ไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร แต่คือ “ประสบการณ์” ที่ธุรกิจสามารถส่งต่อให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่เริ่มจากการใช้จอภาพขาวดำแสดงข้อมูลในร้านค้าปลีกระดับท้องถิ่น หรือหน้าร้านแฟรนไชส์ที่ต้องการสื่อสารโปรโมชั่นแบบเปลี่ยนได้ทันที เช่น ราคาลดพิเศษ หรือสินค้าใหม่ที่เพิ่งเข้า โดยไม่ต้องเปลี่ยนป้ายกระดาษซ้ำ ๆ ทุกวัน การใช้งานเริ่มต้นจากความต้องการ ‘สื่อสารเร็ว’ และ ‘ยืดหยุ่น’ ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปพร้อมกับต้นทุนที่ลดลง Digital Signage ก็เริ่มเข้าสู่ระบบบริหารจัดการเต็มรูปแบบ มีการควบคุมจากศูนย์กลาง และกลายเป็นเครื่องมือที่มีพลังในการดึงดูด สื่อสารแบบเฉพาะบุคคล และวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง ไม่กี่จอที่ทำหน้าที่เพียงสื่อสารข้อมูลพื้นฐาน สู่ระบบที่ซับซ้อนในร้านค้าทั่วโลก เทคโนโลยีนี้ได้เปลี่ยนวิธีคิด วิธีขาย และวิธีสื่อสารของโลกธุรกิจในยุคดิจิทัลไปอย่างสิ้นเชิง
และในอนาคตอันใกล้ เราอาจเห็น Digital Signage ที่ไม่ใช่แค่จอแสดงผล แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ตอบโต้กับเราได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะด้วยเสียง การสัมผัส หรือแม้แต่ AI ที่คาดเดาสิ่งที่เราต้องการเห็นก่อนที่เราจะพูดออกมา
การเดินทางนี้เพิ่งเริ่มต้น และโอกาสยังเปิดกว้างสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่พร้อมปรับตัวให้ทันโลกแห่งการสื่อสารที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเฉกเช่นทุกวันนี้
